ใครๆ มักเปรียบเทียบคนที่มีหัวใจมั่นคง แข็งแกร่งว่าเปรียบเสมือนดั่งเพชรแท้ เพราะคุณสมบัติของเพชรแท้ที่ว่ามีความแข็งมากกว่าวัสดุอื่น เป็นร้อยเท่าพันเท่า ไม่น่าแปลกใจที่สินค้าหลายประเภทจะใช้เพชรเป็นสัญลักษณ์หรือโลโก้ ที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ทนทาน อายุการใช้งานนานเท่านาน แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ความจริงและเข้าใจอย่างแท้จริงในข้อที่ว่าเพชรแท้ก็มีวันแตกได้เหมือนกัน
ถ้าพูดถึงความแข็งแกร่งต้องยอมรับว่าเพชรเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งเดียว ที่จัดได้ว่ามีความแข็งแกร่งมาก ความแข็งที่ว่านี้สามารถแสดงให้เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ การที่มนุษย์นำเอาเพชรไปใช้เป็นเครื่องมือในการกรีดตัดวัสดุหลายชนิดที่มีความแข็งแรงสูงๆ เช่น กระจก กระเบื้อง หรือแม้กระทั่งการเอาเพชรไปทำเป็นหัวสำหรับเจียระไนวัสดุอื่นๆ หลากชนิด เพียงเท่านี้ก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเพชรแท้สมดังคำนิยามที่ให้เอาไว้กับเพชร แต่หากเรามองในแง่มุมของความเปราะ เพชรขึ้นชื่อว่ามีความเปราะที่มากพอสมควร จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะสามารถพบเจอเพชรแท้ที่แตกหักได้ ถึงแม้เพชรจะไม่มีรอยขีดข่วน แต่เพชรสามารถแตกได้
เพชรถือได้ว่าเป็นวัสดุธาตุธรรมชาติ หรือเป็นสสารที่แข็งที่สุดในบรรดาสสารต่างๆ โดยการดูจากเป็นสสารที่แข็งสเกลของโมห์ ( Mohs Scale ) โดยเพชรจะมีระดับความแข็งอยู่ที่ ระดับ 10 ซึ่งจัดว่าเป็นวัสดุที่แข็งที่สุด โดยมันมีความแข็งมากกว่าสสารอื่นๆ ในระดับรองลงมาถึง 200 เท่า แต่หากพูดถึงความเปราะ เราจะพบว่าเพชรไม่มีความเหนียวดั่งเช่นพวกโลหะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเพชรแท้สามารถแตกหักหรือบิ่นได้ง่ายเหมือนกัน ซึ่งต่างกับสารอื่นหลายชนิดเช่นหากเราเปรียบเทียบกับ เหล็ก ซึ่งสามารถเกิดรอยได้หากนำเพชรมาขูด แต่ หากมีการตกกระทบ ในระดับเดียวกัน ขนาดเท่ากัน และระยะเท่ากัน เหล็กเกิดขึ้นแค่ยุบ หรือหดตัว แต่ยังไม่เสียสภาพ แต่ เพชร จะเกิดการบิ่น แตกหัก ถึงขั้นแหลกขึ้นมาได้
เพชรแท้ ย่อมที่จะทนต่อความร้อนและสารเคมีต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้หากนึกภาพไม่ออกจะขอยกตัวอย่างถึงชาติกำเนิดของเพชร เป็นที่ทราบกันดีว่าเพชรเกิดขึ้นเองในธรรมชาติและเป็นทรัพย์ที่อยู่ในดิน ซึ่งเพชรอยู่ในดินชั้นที่ลึกลงไปพอสมควร ในที่นั้นจะหนาแน่นไปด้วยแรงกดดันที่มหาศาลและมีอุณหภูมิที่สูงมาก สิ่งเหล่านี้เองที่หล่อหลอมให้เพชรมีความแข็งแกร่งตามธรรมชาติของมัน สิ่งที่จะขูดข่วนให้เพชรเกิดเป็นรอยได้คงหนีไม่พ้นเพชรด้วยกันเองเท่านั้น
ในกรณีของการตกหรือการกระแทก เพชรแท้จะมีความทนทานต่อการกระแทกในระดับปานกลางเท่านั้น ฉะนั้นหากเพชรตกหล่นหรือกระแทกกับสิ่งอื่นใด ก็ย่อมก่อให้เกิดการแตกหรือบิ่นเป็นรอยได้เช่นกัน โดยเฉพาะเพชรที่มีร่องรอยการบิ่นหรือมีรอยแตกร้าวภายในเนื้อในอยู่บ้าง ถึงแม้เพชรมีความแกร่ง แต่ความทนทานต่อแรงกระแทก หรือแรงที่มากระทำ เพชรก็ไม่ได้แข็งแกร่งเสมอไป เช่นกัน
คราวนี้เรามาลองดู เพชรที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับ ซึ่งคนสวมใส่อยู่ตลอดเวลา โอกาสที่จะเกิดการตกหล่นเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเพชรที่มีการใช้ตัวเรือนโลหะชนิดต่างๆ เช่น ทองทองคำขาว แพลทินั่ม แน่นอนว่า ทองคำขาว หรือทองทั่วไป เป็นเพียงโลหะที่นำมาทำตัวเรือนเพื่อความสวยงามในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เพชรแตกได้ นั่นแปลว่า เพชรถึงมีความแข็งก็จริงอยู่ แต่เพชรก็มีความเปราะเช่นกัน เมื่อนำมาประดับตกแต่งในวัสดุอื่นๆ วันหนึ่งวันใดมันก็มีโอกาส หลุด หรือแตกหักได้เช่นกัน
สรุปแล้ว เพชรเป็นอัญมณีที่มีค่าความแข็งมากที่สุดในโลก เพราะเมื่อเรานำเพชรไปขีดข่วนกับสิ่งอื่นๆ เพชรไม่มีแม้แต่รอยที่เกิดขึ้น แต่ถึงอย่างไรเพชรก็มีความเปราะในตัวอยู่ดีและขึ้นอยู่กับคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น เพชรแต่ละเม็ดก็มีตำหนิที่พร้อมจะแตกอยู่แล้ว หากตกเบา ๆ อาจจะไม่เป็นไร แต่หากมีแผลใหญ่ รอยร้าวลึก เพชรแท้ที่ว่าแน่ ก็สามารถแตกกระจายได้เหมือนกัน ทีนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าของเพชรว่าจะรักษายังไงให้เพชรอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ