
เพชร เป็นเครื่องประดับอีกชนิดหนึ่งที่เกิดจากแร่ธาตุธรรมชาติ ที่มีความแข็งแกร่ง และมีความสวยงามเป็นอย่างมาก จึงทำให้เพชรเป็นเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูงแถมยังมีคุณค่าทางจิตใจต่อผู้ให้และผู้รับเป็นอย่างมากอีกด้วย ทำให้การเลือกซื้อเพชรจึงต้องมีการพิจารณาเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้เพชรที่มีความสวยงาม มีคุณภาพไร้ที่ติ แต่การจะเลือกซื้อเพชรอย่างไรนั้น เราก็ต้องมาดูหลักและวิธีการในการเลือกกัน
หลักการสำหรับการเลือกซื้อเพชรนั้น มีหลักง่ายๆ อยู่ 4 สิ่งที่เราต้องพิจารณา หรือ 4Cs นั่นก็คือ น้ำหนักกะรัต (Carat weight), การเจียระไน (Cut), สีของเพชร (Color) และ ความสะอาด (Clarity) และเดี๋ยวเราจะมาเจาะรายละเอียดกันค่ะว่า 4 สิ่งที่เราต้องพิจารณากันนั้นจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง
1. น้ำหนักกะรัต (Carat weight) กะรัตเป็นหน่วยวัดมาตรฐานที่ใช้วัดน้ำหนักของเพชร รวมถึงอัญมณีต่างๆ ซึ่งเพชรที่มีน้ำหนัก 1 กะรัต จะสามารถแบ่งย่อยแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้อีก 100 หน่วย ที่มีชื่อเรียกว่า ตัง โดยที่เราจะมีเคล็ดลับในการเลือกขนาดของเพชรที่มีขนาดเกือบจะไปอยู่อีกระดับหนึ่งแล้ว เช่น ถ้ามีเพชรขนาด 0.30 – 0.39 หรือ 30 – 39 ตัง เราก็ควรจะเลือกซื้อเพชรที่มีขนาด 37 – 39 ตัง คือ เกือบจะใกล้กับ 40 ตังแล้ว แต่ราคาต่อกะรัตก็ยังอยู่ในเกณฑ์ 30 ตังอยู่นั่นเอง
2. การเจียระไน (Cut) การเจียระไนเพชร เป็นอีกขึ้นตอนหนึ่งที่มีความสำคัญในกระบวนการผลิตเครื่องประดับอย่างเช่นเพชรนะคะ เพราะจะช่วยทำให้เพชรมีความแวววาว สะท้อนแสง และเปล่งแสงออกมาได้อย่างสวยงาม นับว่าเป็นการแสดงฝีมือชั้นเซียน และความชำนาญงานของช่างผู้ทำการผลิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งเพชรที่ดีจะต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่มีหน้ากว้างหรือแคบมากเกินไป และไม่ควรลึกหรือตื้นมากเกินไป ซึ่งจะมีคุณสมบัติในเรื่องของสัดส่วน ความสมมาตร และการขัดผิว แล้วถามว่าเราจะเลือกดูเพชรได้อย่างไร มีวิธีการดูเบื้องต้นก็คือ ลักษณะของแสงที่สะท้อนออกมานั้น แสงจะต้องถูกสะท้อนมายังผู้ที่สวมใส่ เพื่อส่งผลให้เกิดความแวววาวและเปล่งเป็นประกาย ซึ่งเพชรทรงกลมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ก็คือ Brilliant Cut ส่วนเพชรที่เจียระไนสวยที่สุด คือ เพชรที่เป็นเกรด Triple Excellent
3. สีของเพชร (Color) ผ่านไปสองสิ่งสำหรับสิ่งที่ต้องพิจารณาแล้วนะคะ มาต่อกันที่เรื่องของสีเพชร หลายคนอาจจะสงสัยว่า เพชรนั้นมีสีด้วยจริงหรอเนี่ยะ เพชรมีสีนะคะ แต่ต้องทำการแยกโดยผู้เชี่ยวชาญเพราะสายตาของคนเราโดยปกติแล้วจะไม่สามารถแยกสีเพชรได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราจะพบลักษณะของเพชรที่มีลักษณะเป็นสีขาว ไร้สี ไปจนถึงมีสีปนเหลือง แล้วจะมีเพชรอีกกลุ่มหนึ่งที่มีสีเหลืองเข้ม สีน้ำตาล ม่วง ชมพู เป็นต้น เพชรกลุ่มนี้จะอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าเพชรแฟนซี อันนี้ก็จะเป็นการแบ่งตามลักษณะของสีเพชร กับอีกแบบหนึ่งตามการแบ่งตามมาตรฐานของ GIA จะสามารถแบ่งระดับสี ที่เรียกกันว่า น้ำ โดยใช้ตัวอักษรตั้งแต่ D ซึ่งก็คือ น้ำ 100 E เท่ากับน้ำ 99 ไล่ไปจนถึง Z
4. ความสะอาด (Clarity) เป็นตำหนิของเพชรที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น เพชรที่ไม่มีตำหนิเลย (IF) คือ เพชรที่สะอาด ไม่มีตำหนิเลย หาได้ยากมาก, ระดับ VVS1-VVS2 เพชรมีตำหนิน้อยมาก, ระดับ VS1-VS2 เพชรมีตำหนิเล็กน้อย, ระดับ SI1-SI2 เพชรมีตำหนิที่ต้องมองผ่านกล้องขยาย 10 เท่า และระดับ I1-I3 ที่มีรอยตำหนิมองเห็นด้วยตาเปล่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ทั้งหมดนี่ก็เป็นหลักขั้นตอน 4Cs ที่ใช้สำหรับในการเลือกซื้อเพชร เพื่อให้เราได้เพชรที่สวยงาม มีคุณภาพมากที่สุดนั่นเอง มีขั้นตอนง่ายๆ แบบนี้ ต่อไปไม่ต้องกลัวกับการเลือกซื้อเพชรอีกแล้วนะคะ