
ไขข้อข้องใจ เพชรสวิสขายได้ไหม?
หากจะพูดถึงเครื่องประดับอัญมณีที่เป็นที่นิยมและครองใจสาวๆ มีความสวยงามและมีมูลค่ามากคงจะหนีไม่พ้น “เพชร” แต่เนื่องด้วยราคาของเพชรค่อนข้างสูงจึงทำให้ในปัจจุบันมีการทำเพชรสังเคราะห์หรือเพชร CZ ซึ่งมาจากชื่อเต็ม Cubic Zirconia (คิวบิค เซอร์โคเนีย) โดยที่แท้จริงแล้วเพชร CZ นั้นทำมาจาก Zirconium Dioxide (ZrO2) (เซอร์โคเนียม ไดออกไซด์) ซึ่งเป็นสารหลักของ CZ ซึ่ง CZ นั้นมีได้หลายหลากสีขึ้นอยู่กับสารที่นำไปเติมแต่ง ในปัจจุบันยังมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการในบ้านเราว่า "เพชรสวิส" โดยเพชรสวิส นั้นเป็นทางเลือกอีกทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีความนิยมชมชอบเครื่องประดับเพชรแท้แต่ไม่มีกำลังซื้อเนื่องจากเพชรแท้มีราคาสูง และเพชรสวิสก็ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเพชรสังเคราะห์ที่ราคาย่อมเยาว์ที่สุด เหมือนเพชรแท้ที่สุด จึงได้มีการนำเอาเพชรสวิสมาทำเป็นเครื่องประดับได้หลากหลายจนเป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันอีกด้วย
โดยเพชรสวิสนั้นเริ่มมีการทำมาตั้งแต่ปี 1937 เมื่อนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันได้ค้นพบผลึกธรรมชาติ (Cubic) ของแร่ Zirconim Oxide แต่ก็ต้องรอจนถึงปี 1970 นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียถึงจะสามารถจำลองผลึกแร่ชนิดนี้ได้ในห้องแล็บ ต่อมาในปี 1980 เพชรสวิสได้ถูกผลิตขึ้นและเป็นที่รู้จักและยอมรับในวงการเครื่องประดับอย่างกว้างขวางเมื่อ บริษัท Swarovski ที่มีชื่อเสียงทางด้านผลิต crystal เริ่มมีการผลิตเพชรสวิสสำหรับตลาดผู้บริโภคในวงกว้าง โดยมีการนำไปใช้ทำเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ ต่างหู แหวน เป็นต้น และก็มีการพัฒนาการผลิตเพชรสวิสเรื่อยมาจนสามารถมีได้ทุกเฉดสีและมีการแบ่งเกรด โดยเริ่มต้นจากคุณภาพต่ำไปสูง ดังนี้ 1A, 2A, 3A, 4A, 5A, 6A, Star, Heart&Arrow และ Swiss
นักอัญมณีศาสตร์มีความคิดเห็นตรงกันว่าเพชรสวิส มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับเพชรธรรมชาติมากที่สุด สำหรับคนทั่วไปแล้ว หรือแม้แต่นักอัญมณีศาสตร์ แทบจะไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ด้วยตาเปล่า โดยวิธีที่จะแยกความแตกต่างระหว่างเพชรแท้ และเพชรสวิสได้ก็คือ การใช้กล้องขยายที่มีกำลังขยายต่ำกว่า 10 เท่า จะเห็นได้ถึงเหลี่ยมมุมด้านในที่จะไม่เป็นเส้นตรง และเมื่อเส้นเหล่านี้มาตัดกันก็จะสังเกตได้ชัดเจนมากขึ้นว่าไม่เป็นเส้นตรง แต่จะมีลักษณะกลมมนมากกว่าเพชรแท้ หากต้องการการจำแนกที่ชัดเจนถูกต้อง มีเพียงการใช้เครื่องตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้นที่จะสามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
โดยเพชรสวิสนั้นสวยเสมือนเพชรแท้มาก เวลาสวมใส่ดูแทบไม่ออกว่าเป็นของแท้หรือของเทียม แต่ราคาแตกต่างกันอย่างลิบลับ โดยข้อดีของเพชรสวิสนั้นก็คือไม่ต้องระมัดระวัง การสูญหายเท่ากับเพชรแท้ หากใครสงสัยว่าเพชรสวิสนั้นเหมือนกันกับเพชรแท้จนแยกด้วยตาเปล่าไม่ออกแล้วเพชรสวิสขายได้ไหม เพชรสวิสนั้นไม่สามารถขายต่อหรือจำนำได้เนื่องจากไม่ใช่เพชรแท้
จากคำตอบข้างต้นคุณคงทราบกันแล้วว่าเพชรสวิสขายได้ไหม โดยถึงแม้เพชรสวิสจะมีราคาถูกและขายต่อหรือจำนำไม่ได้ แต่ถ้าหากคุณเลือกซื้อเพชรสวิสที่มีคุณภาพแล้วล่ะก็นับว่ามีความคุ้มค่าสูงมากหากเทียบกับการซื้อเพชรแท้ ดังนั้นลูกค้าส่วนมากที่นิยมเครื่องประดับที่ดูหรูหราราคาแพงที่ทำมาจากเพชรสวิสจึงนิยมซื้อชิ้นใหม่และเปลี่ยนแบบไปเรื่อยๆ เพราะราคาถูกถึงแม้ว่าของเก่ายังไม่มีการชำรุดก็ตาม
ส่วนการดูแลรักษาเพชรสวิสนั้นไม่ควรให้เพชรสวิสสัมผัสกับ น้ำหอม สบู่ หรือสารเคมี เพราะจะทำให้เกิดคราบจับเกาะเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ ส่งผลให้เพชรสวิสขุ่นมัว ไม่ส่องประกายได้อย่างเต็มที่ และควรทำความสะอาดโดยการใช้น้ำยาล้างจานหรือยาสีฟันทำความสะอาด จากนั้นใช้แปรงขนอ่อนแปรงเบา ๆ เพียงเท่านี้เพชรสวิสก็กลับมาใสเป็นประกายสวยงามเหมือนเดิม
